บทความ เรื่อง อาการชา หรือ เหน็บชา จากการนั่งนานๆพอพักแล้วก็หายได้เอง อาการที่ใครหลายคนต้องเคยเจอ เหมือนจะเป็นอาการทั่วไป แต่อาจเป็นสัญญาณอันตรายได้
หน้าแรก
เรื่องเข้าใจผิดกับ อาการชา

เรื่องเข้าใจผิดกับ อาการชา

หลายคนคงเคยมีอาการ เหน็บชา จากการนั่งนาน ๆ พอพักแล้วก็หายได้เอง ขณะที่บางคนอาจเคยรู้สึกชาตามปลายมือ ปลายเท้าที่ยังหาสาเหตุไม่พบ อาการเหล่านี้มองเผิน ๆ เหมือนจะเป็นอาการทั่วไปที่ใคร ๆ ก็เป็นกัน แต่แท้จริงแล้ว อาการชา อาจเป็นเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงโรคบางอย่างที่ซ่อนอยู่

อาการชากับเหน็บชาไม่เหมือนกัน

เราอาจเข้าใจว่าอาการชากับเหน็บชาเป็นอาการเดียวกัน ที่จริงแล้วอาการชา หมายถึง อาการที่ร่างกายสูญเสียความรู้สึก คล้ายกับเวลาที่หมอฟันฉีดยาชาให้ เมื่อแตะที่ปาก เราจะไม่รู้สึกอะไรเลย ส่วนอาการเหน็บชา หมายถึง ความรู้สึกยุบยิบบนร่างกาย เช่น นั่งขัดสมาธินาน พอลุกแล้วรู้สึกปวดยุบยิบ ๆ ที่ขา

บทความ เรื่อง อาการชา หรือ เหน็บชา จากการนั่งนานๆพอพักแล้วก็หายได้เอง อาการที่ใครหลายคนต้องเคยเจอ เหมือนจะเป็นอาการทั่วไป แต่อาจเป็นสัญญาณอันตรายได้

สาเหตุของอาการชา

สาเหตุของอาการชามีหลายอย่าง เป็นอาการที่ไม่จำเพาะเจาะจงว่าเป็นโรคใด อาจเกิดจากปัญหาของระบบประสาทส่วนใดส่วนหนึ่ง ตั้งแต่สมอง ไขสันหลัง จนไปถึงเส้นประสาทส่วนปลาย นอกจากนี้อาการชายังรวมถึงอาการเหน็บชาด้วย ซึ่งเป็นอาการที่ใคร ๆ ก็สามารถเป็นได้

อาการชา เกิดขึ้นกับร่างกายส่วนไหนบ้าง

อาการ เหน็บชา และอาการชาเกิดขึ้นได้กับทุกส่วนของร่างกายที่มีเส้นประสาท เช่น มือ เท้า ใบหน้า ลำตัว เป็นต้น 

4 ความเชื่อเกี่ยวกับอาการชา

มีความเชื่อที่แชร์ต่อ ๆ กันมาถึงอันตรายของอาการชา และการรักษาอาการชาด้วยวิธีบางอย่าง ความเชื่อเหล่านี้จริงหรือไม่

ความเชื่อที่ 1 ชาบ่อย ๆ ปล่อยทิ้งไว้เสี่ยงเป็นอัมพาต

ความเชื่อนี้ไม่จริง แม้ว่าอาการชาจะมีหลายรูปแบบ แต่อาการชาจากโรคอัมพาตจะต่างจากอาการชาทั่วไป ส่วนใหญ่เกิดขึ้นทันที มักไม่มีสัญญาณเตือน เมื่อชาจะชาทั้งซีก เช่น ชาซีกขวาทั้งแขน ขา และใบหน้า แต่อาการชาทั่วไปมักเป็นที่เท้าหรือมือ และเกิดจากสาเหตุอื่น

ความเชื่อที่ 2 ชาตามปลายมือปลายเท้า เสี่ยงเป็นโรคปลายประสาทอักเสบ

ความเชื่อนี้จริงบางส่วน เพราะอาการชาเป็นเพียงอาการหนึ่งของโรคเส้นประสาทอักเสบเท่านั้น แต่โรคนี้ยังมีอาการอื่นด้วย เช่น รู้สึกยุบยิบ ๆ ปวดปลายประสาท ร้อน แต่ในทางกลับกันอาการชาอาจหมายถึงโรคอื่นได้ด้วย เช่น โรคพังผืดทับเส้นประสาท หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เป็นต้น ความแตกต่างของอาการชาจากโรคพังผืดทับเส้นประสาท หรือหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทจะมีความเฉพาะจุด เช่น ชามือ แขน หรือขาข้างใดข้างหนึ่ง แต่หากเป็นโรคเส้นประสาทอักเสบ คนไข้มักจะมีอาการชาที่ปลายมือปลายเท้า ชาแบบค่อย ๆ ลามขึ้นมา เช่น จากปลายเท้าขึ้นมาถึงมือ และมีอาการอื่นตามมา เช่น ปลายมือปลายเท้าอ่อนแรง

ความเชื่อที่ 3 อยากหายชา ให้ดื่มน้ำต้มขิง น้ำตะไคร้ 

ความเชื่อนี้ไม่จริง เพราะหากอาการชาเกิดจากเส้นประสาทอักเสบ เช่น คนไข้เป็นเบาหวานแล้วคุมโรคได้ไม่ดี เบาหวานจึงไปลงเส้นประสาททำให้เกิดอาการชาที่เท้า การรักษาอาการชาให้หายจึงเป็นการแก้ที่ต้นเหตุ นั่นคือการคุมโรคให้ดี

ความเชื่อที่ 4 อาการชาเป็นเฉพาะในผู้สูงอายุเท่านั้น 

ความเชื่อนี้ไม่จริง หลายคนอาจเข้าใจว่าอาการชาเป็นเฉพาะในผู้สูงอายุเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วโรคทางระบบประสาทหลายโรคสามารถพบในเด็กได้เช่นเดียวกัน เพียงแต่อาจพบน้อยกว่าเท่านั้น

สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องของอาการชาได้ที่ – อาการชา เรื่องไหนจริงหรือหลอก ? – Health Hack

บทความ เรื่อง อาการชา หรือ เหน็บชา จากการนั่งนานๆพอพักแล้วก็หายได้เอง อาการที่ใครหลายคนต้องเคยเจอ เหมือนจะเป็นอาการทั่วไป แต่อาจเป็นสัญญาณอันตรายได้

อาการชา แบบไหนควรปรึกษาแพทย์

หากมีอาการเหน็บชาหรือชาเพียงแค่ชั่วคราวและเป็นเฉพาะจุด ส่วนใหญ่มักเกิดจากการทำงาน แต่หากอาการเหน็บชาหรืออาการชาค่อย ๆ ตัด เป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ หรือมีอาการอื่นร่วม เช่น อ่อนแรง แนะนำให้มาพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง

การรักษาอาการชา

การรักษา อาการชา แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

  1. การรักษาที่ต้นเหตุ หากสาเหตุของอาการชานั้นเกิดจากคนไข้เป็นปลอกประสาทอักเสบแบบภูมิทำลายตัวเอง แพทย์จะรักษาที่ตัวโรคด้วยการให้ยากดภูมิคุ้มกัน
  2. การรักษาตามอาการ แพทย์จะให้ยาเพื่อลดอาการชา อาการปวดเส้นประสาท ให้อาการทุเลาลงโดยที่ยานี้อาจไม่ได้แก้ที่สาเหตุโดยตรง

บทความ เรื่อง อาการชา หรือ เหน็บชา จากการนั่งนานๆพอพักแล้วก็หายได้เอง อาการที่ใครหลายคนต้องเคยเจอ เหมือนจะเป็นอาการทั่วไป แต่อาจเป็นสัญญาณอันตรายได้

ทำอย่างไรเมื่อเกิด อาการชา

หมั่นสังเกตว่าอาการชาที่เกิดขึ้นนั้นเกี่ยวเนื่องจากพฤติกรรมบางอย่างหรือไม่ หากมีอาการชาทุกครั้งที่พิมพ์คอมพิวเตอร์แสดงว่าควรปรับท่าให้ถูกต้อง นอกจากนี้ อาจใช้การแช่น้ำอุ่น 10 นาที เพื่อช่วยบรรเทาอาการชาก็ได้ ส่วนในคนไข้ที่มีความเสี่ยง หรือมีอาการชาอยู่แล้ว และได้รับการรักษาอยู่ ควรหมั่นดูแลมือ เท้า และระมัดระวังในการเดินให้มากขึ้น เนื่องจากอาจเดินไปเหยียบอะไรแล้วไม่ทันรู้ตัว จนเกิดบาดแผลเรื้อรังที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อในอนาคตได้ 

แม้อาการเหน็บชาจะเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ทั่วไปและไม่ได้มีอันตรายแต่อย่างใด แต่หากมีอาการชาโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือเป็นมากขึ้น ควรมาพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย และรับการรักษาที่ถูกต้องต่อไป

 

ข้อมูลจาก

อ. พญ.ธนนันท์ ธรรมมงคลชัย 

สาขาวิชาประสาทวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์

คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี 

มหาวิทยาลัยมหิดล

 

อย่าลืมกดติดตามช่อง Rama Channel ที่น่าสนใจอีกมากมายได้ที่ 

Website Ramathibodi: https://www.rama.mahidol.ac.th/

Youtube: https://www.youtube.com/RamachannelTV

Facebook : https://www.facebook.com/ramachannel

Line: https://page.line.me/ramathibodi

Tiktok: https://www.tiktok.com/@ramachanneltv

RAMA Channel

บทความที่เกี่ยวข้อง

ไก่สดไม่ควรล้างจริงหรือ-ความจริงที่หลายคนยังเข้าใจผิด
การล้างไก่สดก่อนปรุงอาจกระจายเชื้อแบคทีเรียอย่างแคมไพโลแบคเตอร์ไปยังอ่างล้างจานและเครื่องครัว เสี่ยงปนเปื้อนอาหารและทำให้เกิดโรคท้องร่วง
บทความสุขภาพ
28-05-2025

5

โรคพยาธิในช่องคลอด-ภัยเงียบที่ซ่อนอยู่ในร่างกายผู้หญิง
โรคพยาธิในช่องคลอดเกิดจากการติดเชื้อโปรโตซัว มักมีอาการตกขาวมีกลิ่น คัน แสบ หากไม่รักษาอาจลุกลามและส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง
บทความสุขภาพ
25-05-2025

5

ปานสีน้ำตาล-ภาวะผิวผิดปกติที่พบได้ตั้งแต่กำเนิด
ปานสีน้ำตาลเกิดจากเม็ดสีผิวผิดปกติ อาจเป็นเพียงความสวยงามตามธรรมชาติหรือสัญญาณโรคร้าย ควรหมั่นสังเกตขนาด สี และรูปร่างที่เปลี่ยนแปลง
บทความสุขภาพ
22-05-2025

2

ท้องลม สัญญาณเตือนที่คุณแม่ต้องรู้
ท้องลมหรือการตั้งครรภ์ที่ไม่มีตัวอ่อน อาจเกิดจากความผิดปกติของไข่ที่ปฏิสนธิแล้ว ควรสังเกตอาการและตรวจอัลตราซาวด์ตามนัดอย่างใกล้ชิด
บทความสุขภาพ
18-05-2025

8

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
0 2201 1000
0 2200 3000

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

270 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0 2201 0182
โทรสาร 0 2201 2127
อีเมล ramachannel24@gmail.com

© 2024, RAMA CHANNEL